สี่เสาหลักทางการศึกษา
องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
หรือยูเนสโก (UNESCO) ได้ศึกษาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยจัดให้มีการประชุมนานาชาติ
เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่าลกลุ่มคนต่างๆ ทั่วโลก จนกระทั่งได้ข้อสรุปแนวทางการจัดการศึกษาใน
ศตวรรษที่ 21 โดยคณะกรรมาธิการนานาชาติว่าด้วยการศึกษาในศตวรรษที่ 21 จำนวน 15 ท่าน
เป็นผู้จัดทำและตั้งชื่อรายงานว่า ว่า “Learning: The Treasure
Within” แปลว่า “การเรียนรู้ ขุมทรัพย์ในตน” โดยมีสาระสำคัญกล่าวถึง
“สี่เสาหลักทางการศึกษา” เป็นหลักการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วยการเรียนรู้ 4 ลักษณะ ได้แก่
1. การเรียนเพื่อรู้ (Learning to know)
2. การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง (Learning to do)
3. การเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ร่วมกัน (Learning to Live Together)
4. การเรียนรู้เพื่อชีวิต (Learning to Be)
การเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 ยึดแนวทางการเรียนรู้
4 แบบ ที่เป็นการเรียนรู้เพื่อชีวิต มุ่งจัดการ
ศึกษาให้กับผู้เรียนสามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ
ดังนี้
1.การเรียนเพื่อรู้ หมายถึง การศึกษาที่มุ่งพัฒนากระบวนการคิด กระบวนการเรียนรู้
การแสวงหาความรู้และวิธีการเรียนรู้ของผู้เรียน
เพื่อให้สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ตลอดชีวิต
กระบวนการเรียนรู้เน้นการฝึกสติ สมาธิ ความจำ ความคิด ผสมผสานความรู้ทั่วไปที่กว้างขวางเพียงพอเข้ากับโอกาสที่จะศึกษาบางวิชาอย่างละเอียดลึกซึ้ง
การเรียนเพื่อรู้หมายรวมถึง
การฝึกฝนในวิธีเรียนรู้เพื่อจะได้ตักตวงประโยชน์จากการศึกษาไปจนตลอดชีวิต
2.การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง หมายถึง การศึกษาที่มุ่งพัฒนาความสามารถและความชำนาญ
รวมทั้งสมรรถนะทางด้านวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงานเป็นหมู่คณะ ปรับประยุกต์องค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติงานและอาชีพ
ได้อย่างเหมาะสม กระบวนการเรียนการสอนบูรณาการระหว่างความรู้ ภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติงานที่เน้นประสบการณ์ต่างๆ
ทางสังคม สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
และปฏิบัติงานเป็นหมู่คณะ เป็นการเรียนรู้โดยอาศัยประสบการณ์ต่างๆ ทางสังคมและในการประกอบอาชีพ
ซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้นอกระบบโรงเรียน
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากสภาพในท้องถิ่นหรือประเทศนั้นๆ
หรืออาจเป็นการเรียนรู้ในระบบโรงเรียน
โดยใช้หลักสูตรซึ่งประกอบด้วยการเรียนในภาคทฤษฎีสลับกับการเรียนฝึกปฏิบัติงาน
3. การเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ร่วมกัน หมายถึง การศึกษาที่มุ่งให้ผู้เรียนสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข มีความตระหนักในการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
การแก้ปัญหาการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี มีความเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
และเข้าใจความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ของแต่ละบุคคลในสังคม สอนให้เข้าใจผู้อื่นและตระหนักดีว่า มนุษย์เราจะต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ดำเนินโครงการร่วมกันและเรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ
โดยชี้ให้เห็นว่าความหลากหลาย ความเข้าใจอันดีต่อกัน
และสันติภาพนั้นล้ำค่าและคู่ควรแก่การหวงแหน
4.การเรียนรู้เพื่อชีวิต หมายถึง การศึกษาที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกด้านทั้งจิตใจและร่างกาย สติปัญญา ให้ความสำคัญกับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ภาษา และวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์
ที่สมบูรณ์ มีความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม ศีลธรรม
สามารถปรับตัว และปรับปรุงบุคลิกภาพของตน เข้าใจตนเองและผู้อื่น สามารถปรับปรุงบุคลิกภาพของตนให้ดีขึ้นดำเนินงานต่างๆ
โดยอิสรเสรียิ่งขึ้น มีดุลยพินิจ และความรับผิดชอบต่อตนเองมากขึ้น
ต้องไม่ละเลยศักยภาพในด้านใดด้านหนึ่งเด็ดขาด เช่น ความจำ การใช้เหตุผล
ความซาบซึ้งในสุนทรียภาพ สมรรถนะทางร่างกาย และทักษะในด้านการสื่อสารกับผู้อื่น
ความสำคัญ
สี่เสาหลักทางการศึกษามีความสำคัญในฐานะที่หัวใจของเป้าหมายและแนวทางการจัดการศึกษาทุกระดับ
ที่ผู้บริหารการศึกษา
ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการศึกษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเช่น ชุมชน สังคม
ที่มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ใช้เป็นกรอบการคิดและตัดสินใจ
เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ การคิดเป็นระบบ
มีจิตสาธารณะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น